การมีเลือดกำเดาไหลระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ แม้ว่าจะมีความเป็นธรรมดา แต่ก็ควรระวังและปรึกษาแพทย์หากเกิดขึ้นในบ่อยครั้ง เพราะอาจเป็นอาการเสี่ยงต่อการแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้
สาเหตุของการเลือดกำเดาไหลระหว่างตั้งครรภ์อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่สำคัญสุดคือการเกิดการติดเชื้อในท่อน้ำเหลือง ซึ่งเป็นช่องทางที่เชื้อโรคเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อของช่องคลอด ส่งผลให้เกิดการเลือดกำเดาไหลระหว่างตั้งครรภ์ อาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดพร้อมกับเลือดกำเดาไหล ได้แก่ อาการบวมที่เท้าและข้อเท้า อาการปวดบวมที่ขา
วิธีการป้องกัน มีดังนี้
ในกรณีที่เลือดกำเดาไหลมีปริมาณมาก หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดหน้าท้อง แน่นหน้าท้อง หรืออาการตัวเหนียว ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อการตรวจและรักษาอย่างทันเวลา
สำหรับการรักษาเลือดกำเดาไหลในผู้หญิงตั้งครรภ์ แพทย์อาจให้ยารักษาการติดเชื้อในท่อน้ำเหลือง หรือใช้ยาซึ่งช่วยลดอาการเลือดกำเดาไหล โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเกิดแผลในช่องคลอด โดยทั่วไปแล้วการรักษาเลือดกำเดาไหลระหว่างตั้งครรภ์ไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ แต่หากไม่ได้รักษาและเกิดโรคช่องคลอดอย่างรุนแรง อาจมีผลกระทบต่อการคลอด หรือสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
ดังนั้น การเลือดกำเดาไหลในผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ธรรมดาหรือปกติ แม้ว่าจะไม่มีอาการชัดเจน แต่ก็ควรระวัง เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือภัยคุกคามต่อการตั้งครรภ์และการคลอดในอนาคต
Reference