เด็กสมาธิสั้น หรือ Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็ก มีอาการเด่นที่สุดคือการสมาธิสั้น และพฤติกรรมไม่สมดุลย์ ทำให้เด็กมีความยากลำบากในการจัดการกับตนเองและการเรียนรู้ในชั้นเรียน
อาการของเด็กสมาธิสั้นมีหลายอย่าง เช่น ขาดความสนใจ ไม่สามารถติดตั้งความสนใจในเรื่องที่น่าสนใจได้ ขาดความสามารถในการฟังและตอบสนองต่อคำพูดของผู้อื่น การพูดมากหรือพูดเสียงดังโดยไม่เห็นสาเหตุ การเคลื่อนไหวมากโดยไม่ได้ตั้งใจ อาการขี้ลืมและของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน การจำกัดความสามารถในการจัดการกับความสมดุลย์ของตนเอง และอื่นๆ
สำหรับการรับมือกับเด็กสมาธิสั้นจะต้องพิจารณาด้านต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อมของเด็ก และปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็ก เช่น สภาพจิตใจ การเรียนรู้ และการพัฒนาทางสังคม แต่ว่าทั้งนี้ไม่ใช่อาการที่ไม่สามารถรักษาได้ การตรวจวินิจฉัยและการรักษาโดยทีมแพทย์สามารถช่วยบรรเทาอาการเด็กสมาธิสั้นได้ อาทิ การใช้ยา การทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และการส่งเสริมการเรียนรู้
อย่างไรก็ตามการรักษาอาจมีผลข้างเคียง และอาจจะไม่เหมาะกับเด็กทุกคน การจัดการพฤติกรรมและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเด็กสมาธิสั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงที่เด็กจะมีอาการหนักขึ้น
ส่วนการจัดการพฤติกรรมของเด็กสมาธิสั้นต้องเริ่มต้นด้วยการให้ความรักและความสนใจต่อเด็ก การสร้างความเข้าใจเด็กโดยการติดต่อสื่อสารอย่างเปิดเผย การให้การสนับสนุนในการจัดการกับตนเองและการเรียนรู้ การให้เชิญชวนให้เด็กมีการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเด็กสมาธิสั้น เช่น การลดปริมาณสื่อดิจิทัล การลดแสงสว่างในบ้านหรือห้องเรียน และการสร้างสัญญาณบอกเตือนเพื่อช่วยเด็กให้มีสมาธิได้ดีขึ้น
สุดท้ายนี้ การรับมือกับเด็กสมาธิสั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจจากพ่อแม่ เด็กสมาธิสั้นอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นในการเรียนรู้และในการจัดการกับตัวเอง การสร้างสัญญาณบอกเตือนและการใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมสำหรับเด็กสมาธิสั้นจะช่วยอย่างมากในการช่วยเด็กมีสมาธิและเรียนรู้ได้ดีขึ้น โดยพ่อแม่สามารถช่วยเด็กได้โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ การให้กิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเล่นเกมที่เน้นการเรียนรู้ การอ่านหนังสือ การเขียน การวาดภาพ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เช่น การเต้นรำ การเล่นกีฬา และอื่นๆ
Reference